Vwin Talk 2 กันยายน

7 แมทช์ที่มีการทำประตูมากที่สุดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก by vwin

บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ ซึ่ง 1 ในแมทช์สำคัญ คือการถล่มบาร์เซโลน่ายับเยิน 8-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้นี่คือ 1 ในแมทช์ที่มีผลรวมของสกอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ว่าแต่จะมีแมทช์ใดบ้างที่มีผลรวมสกอร์มากที่สุด เราจะพาไปดูกัน

1. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 8-4 ลีเกีย วอร์ซอว์ นัดที่ 5 รอบแบ่งกลุ่ม 2016-17 

สถานการณ์ก่อนเกมนัดดังกล่าว ดอร์ทมุนด์เก็บ 10 คะแนนจาก 4 นัดแรก ขณะที่ลีเกีย วอร์ซอว์เก็บได้แค่ 1 คะแนน จาก 4 นัดแรก โดยเป็นทางดอร์ทมุนด์ที่ได้ 2 ประตูจากชินจิ คากาวะ กับ มาร์โก รอยส์ บวกกับ  นูริ ซาฮิน, อุสมาน เดมเบเล่, เฟลิกซ์ พาสลัค และการทำเข้าประตูตนเองของ ยาคุบ เรซนิซัค ขณะที่ลีเกีย ได้ 2 ประตูจาก อเลคซานดาร์ พริโยวิช บวกกับ มิชาล คูร์ชาร์เซียค และ เนมานย่า นิโคลิช หลังจบเกมดังกล่าว ดอร์ทมุนด์เก็บ 14 คะแนนผ่านเข้ารอบก่อนพ่ายโมนาโกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวม 3-6 ขณะที่ลีเกีย เก็บ 4 คะแนนคว้าอันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มก่อนพ่ายอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในรอบ 32 ทีมศึกยูโรป้า ลีก ด้วยสกอร์รวม 0-1 

2. โมนาโก 8-3 เดปอร์ติโบ ลา คอรุณญ่า นัดที่ 4 รอบแบ่งกลุ่ม 2003-04

สถานการณ์ก่อนเกมนัดดังกล่าว โมนาโกเก็บ 6 คะแนนจาก 3 นัดแรก ขณะที่เดปอร์ติโบ ลา คอรุณญ่าเก็บ 7 คะแนนจาก 3 นัดแรก โดยเป็นทางโมนาโกถอนแค้นลา คอรุณญ่า จาก 4 ประตูของ ดาโด แปร์โซ่ บวกกับ เฌอโรม โรเต็น, ลูโดวิช ชูลี่, ยาโรสลาฟ พลาซิล และ เอดูอาร์ด ซิสเซ่ ขณะที่ลา คอรุณญ่าได้ 2 ประตูจาก ดิเอโก้ ทริสตัน บวกกับ ลิโอเนล สคาโลนี่ หลังจบเกมดังกล่าว โมนาโกเก็บ 11 คะแนน ผ่านเข้ารอบเช่นเดียวกับลา คอรุณญ่าที่เก็บ 10 คะแนน ทั้ง 2 ทีมต่างทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ โดยโมนาโกทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนพ่ายปอร์โต้ 0-3 ขณะที่ ลา คอรุณญ่าพ่ายปอร์โต้ด้วยสกอร์รวม 0-1

3. บาร์เซโลน่า 2-8 บาเยิร์น มิวนิค รอบ 8 ทีมสุดท้าย 2019-20

สถานการณ์ก่อนเกมนัดดังกล่าว บาร์เซโลน่าผ่านนาโปลีในรอบ 16 ทีมด้วยสกอร์รวม 4-2 ขณะที่บาเยิร์น มิวนิคผ่านเชลซีในรอบ 16 ทีมด้วยสกอร์รวม 7-1 โดยเป็นทางบาเยิร์นที่ได้ 2 ประตูจาก โธมัส มุลเลอร์ และ ฟิลิปเป้ คูติณโญ่ บวกกับ อิวาน เปริซิซ, แซร์ก กนาบรี้, โจชัว คิมมิช และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ขณะที่บาร์เซโลน่าได้ประตูจากหลุยส์ ซัวเรซ และการทำเข้าประตูตัวเองของดาบิด อลาบา โดยบาเยิร์นทะลุเข้าชิงชนะเลิศ ก่อนคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ด้วยการเฉือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

4. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 7-2 โรเซนบอร์ก นัดที่ 5 รอบแบ่งกลุ่ม 2000-01

สถานการณ์ก่อนเกมนัดดังกล่าว ปารีสเก็บ 6 คะแนนจาก 4 นัดแรก ขณะที่โรเซนบอร์กเก็บ 6 คะแนนจาก 4 นัดแรกเช่นกัน โดยเป็นทางปารีสถอนแค้นโรเซนบอร์ก จาก 2 ประตูของนิโกลาส์ อเนลก้า บวกกับ เฟเดอริค เดอู, คริสเตียน, ปีเตอร์ ลุคแซง, เฌอโรม เลอรัว และโลร็อง โรแบร์ ขณะที่โรเซนบอร์กได้ 2 ประตูจาก คริสเตอร์ จอร์จ หลังจบนัดดังกล่าว ปารีสเก็บ 10 คะแนนผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 ก่อนเป็นบ๊วยในกลุ่มที่มี เดปอร์ติโบ ลา คอรุณญ่า, กาลาตาซาราย และ เอซี มิลาน ขณะที่โรเซนบอร์กเก็บ 7 คะแนนคว้าอันดับ 3 ก่อนพ่ายอลาเบสในรอบ 32 ทีมศึกยูฟ่า คัพ ด้วยสกอร์รวม 2-4

5. โอลิมปิค ลียง 7-2 แวร์เดอร์ เบรเมน รอบ 16 ทีมสุดท้าย 2004-05 นัดที่ 2

สถานการ์ณก่อนนัดดังกล่าว ลียงบุกไปถล่มเบรเมนถึงบ้าน 0-3 โดยนัดนี้ เป็นทางลียงที่ได้ซิลแว็ง วิลตอร์ ซัดแฮททริค บวกกับ 2 ประตูของ มิชาเอล เอสเซียง และ 1 ประตูจากฟลอร็องต์ มาลูด้า กับเฌเรมี่ แบร์โธด์  ขณะที่เบรเมนได้ประตูจากโยฮัน มิกูด์และวาเรเลียง อิสมาเอล ก่อนที่ลียงจะพ่ายจุดโทษพีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2-4 หลังเสมอด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-2

6. บียาร์เรอัล 6-3 อัลบอร์ก บีเค นัดที่ 3 รอบแบ่งกลุ่ม 2008-09

สถานการณ์ก่อนนัดดังกล่าว บียาร์เรอัลเก็บ 4 แต้มจาก 2 นัดแรก ขณะที่อัลบอร์กได้ 1 คะแนนจากการเสมอกลาสโกว เซลติก โดยเป็นทางบียาร์เรอัลที่ได้โฆเซบา ยอร์เรนเต้ซัดแฮททริค บวกกับจูเซ็ปเป้ รอสซี่, โจน คัพเดบีญ่า และ โรแบร์ ปิเรส ขณะที่อัลบอร์กได้ประตูจาก มาเร็ค ซากานอฟสกี้, โธมัส เอเนโวล์ดเซ่น และ อันเดรียส โจฮันส์สัน หลังจบนัดดังกล่าว บียาร์เรอัลเก็บ 9 ผ่านเข้ารอบ ก่อนพ่ายอาร์เซน่อลในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 1-4 ขณะที่อัลบอร์กเก็บ 6 คะแนนคว้าอันดับ 3 ก่อนแพ้จุดโทษแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า คัพ 3-4 หลังเสมอด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-2

7. ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส 2-7 บาเยิร์น มิวนิค นัดที่ 2 รอบแบ่งกลุ่ม 2019-20

สถานการณ์ก่อนนัดดังกล่าว สเปอร์สเสมอโอลิมเปียกอส 2-2 ขณะที่บาเยิร์นผ่านเร้ดสตาร์ เบลเกรด 3-0 โดยเป็นทางบาเยิร์นที่ได้ 4 ประตูจากแซร์ก กนาบรี้ บวกกับ 2 ประตูของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ 1 ประตูจากโจชัว คิมมิช ขณะที่สเปอร์สได้ประตูจาก ซง เฮือง มินและแฮร์รี่ เคน หลังจบนัดดังกล่าว บาเยิร์นเก็บ 18 แต้มเข้ารอบเช่นเดียวกับสเปอร์สที่เก็บ 10 คะแนน โดยเป็นบาเยิร์นทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศก่อนเฉือนปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-0 คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นสมัยที่ 6 ขณะที่สเปอร์สจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมหลังพ่ายอาร์เบ ไลป์ซิกด้วยสกอร์รวม 0-4

>>> https://bit.ly/vwin666 <<<

สมัครวันนี้รับโบนัส 100% + 50 ฟรีสปิน

Vwin เว็บตรง มั่นคง จ่ายจริง

บoล บๅส คๅสิโu สล็อต มีครบจบที่เดียว

ฝากขั้นต่ำ 100 บาท รวดเร็ว บริการ 24 ชั่วโมง

แอดเลยLINE : @vwinthai (https://bit.ly/vwinline)